พลาสติก วัสถุที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา แม้เราจะพยายามลดการใช้พลาสติกลง เพื่อทำให้โลกน่าอยู่มากขึ้นแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราไม่สามารถล้มเลิกการใช้พลาสติกได้ เราสามารถพบเจอพลาสติกชนิดต่างๆ ได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น แก้วน้ำ ขวดน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องมือทางการแพทย์ บรรจุภัณฑ์ ของเล่น สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ล้วนแล้วแต่ผลิตมาจากพลาสติก หรือมีพลาสติกเป็นส่วนประกอบ วันนี้เราจะพูดถึงพลาสติก PP และ PE พลาสติกทั้งสองชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แผ่น pp แผ่น pe คืออะไร มาดูกัน
แผ่น PP
มาเริ่มต้นทำความรู้จักแผ่น PP กันก่อน ย่อมาจาก Polypropylene หรือ โพลีโพรพิลีน พลาสติกชนิดนี้ยอมให้แสงส่องผ่านไปได้ เราจึงสามารถมองเห็นผลิตภัณฑ์ภายในหรือวัตถุที่อยู่ภายในได้นั่นเอง จุดเด่นของพลาสติกชนิดนี้คือ ทนต่อความร้อนได้สูงถึง 300 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่รองรับแรงดันได้มากถึง 1 แสนปอนด์ต่อตารางนิ้วด้วย มีทั้งความเหนียวและยังมีความแข็งแรงทนทานมากๆ นิยมนำพลาสติกชนิดนี้มาเป่าทำเป็นถุงอเนกประสงค์ ทำได้ทั้งถุงร้อนและถุงเย็น นอกจากนั้นยังนิยมนำไปทำพรม หญ้าเทียม เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ ฯลฯ
แผ่น PE
แผ่น PE ย่อมาจาก Polyethylene หรือ โพลีเอทิลีน พลาสติกชนิดนี้มีทั้งความแข็งแรงและมีความทนทานไม่แพ้กัน มีความเหนียว สามารถป้องกันความชื้นไม่ให้ผ่านเข้ามา หลายคนสงสัยว่าแผ่น pp แผ่น pe พลาสติกไหนดีกว่า เดี๋ยวเราจะสรุปในตอนท้ายอีกที สำหรับแผ่น PE นั้นจะไม่สามารถให้ก๊าซซึมผ่านหรืออากาศผ่านไปได้ ทนต่อกรด-ด่างแต่ไม่ทนต่อน้ำมัน ไขมันเท่าไหร่ สามารถพับ ดัด งอได้ง่าย น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่น เป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี แต่ไม่ทนต่ออุณหภูมิสูง สามารถทนต่อความเย็นได้มากถึง -100 องศาฟาเรนไฮต์ แผ่น PE แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่
- Polyethylene ความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น
- Polyethylene ความหนาแน่นต่ำ
- Polyethylene ความหนาแน่นสูง
แผ่น pp แผ่น pe ต่างกันอย่างไร
จากทั้งหมดที่เราได้กล่าวมา จะเห็นได้ว่า แผ่นพลาสติก PP มีคุณสมบัติที่ทนต่อความร้อนได้ดี แต่แผ่น PE มีคุณสมบัติทนต่อความเย็นได้ดี ดังนั้น จึงมีดีทั้งคู่แต่การนำไปใช้งานต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน จะทำให้ชิ้นงานหรือผลิตภัณฑ์มีความแข็งแรงทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน คุ้มค่าแต่การลงทุน หากเลือกไม่เหมาะสมก็อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาภายหลังได้ เช่น นำแผ่น PP ไปแปรรูป ใช้งานในห้องเย็นที่มีอุณหภูมิติดลบ -100 องศาฟเรนไฮต์ อาจเกิดปัญหาตามมาได้ ชิ้นงานไม่มีคุณภาพ อายุการใช้งานนั้น ตรงกันข้ามถ้านำแผ่น PE ไปใช้งานที่อุณหภูมิสูงก็อาจมีปัญหาเกิดขึ้นเช่นกัน